รีวิวเกม Resident Evil 4 Remake เป็นแฟรนไชส์ที่หลาย ๆ คนคาดหวังสูงอย่างมากสำหรับแฟรนไชส์ ผีชีวะ Resident Evil ผู้พัฒนาได้เลือกทำการ Remake เกมตั้งแต่ภาคแรก และก็ได้รับคำชมมาในทุก ๆ ภาค และนี่มันก็ถึงคิวของ Resident Evil 4 Remake ที่เป็นการยกเครื่องใหม่ทั้งในด้านเกมเพลย์ เนื้อเรื่อง รวมถึงยกระดับกราฟิกใหม่ทั้งหมด แถมยังได้สองผู้กำกับมือดีอย่างคุณ Yasuhiro Anpo และคุณ Kazunori Kadoi ที่เคยสร้างความหลอนในเกม Resident Evil 2 Remake มาแล้ว !! โดยในวันนี้พวกเราก็จะมารีวิวตัวเกมให้ทุกท่านได้ทราบกันว่า Resident Evil 4 Remake จะยังสามารถคงมาตรฐานความยอดเยี่ยมที่เคยทำในภาคก่อน ๆ ได้หรือไม่
รีวิวเกม Resident Evil 4 Remake กราฟิก และการนำเสนอ หนึ่งในเกมรีเมคที่ทำออกมาได้ดีที่สุด
สำหรับ เกม Resident Evil 4 Remake ในภาคนี้ตัวเกมก็จะยังใช้ขุมพลัง RE Engine ที่เคยสร้างเกมภาคก่อน ๆ มาใช้ แต่สิ่งที่ภาคนี้ทำออกมาได้ดีกว่านั่นก็คือการเพิ่มเติมเรื่องแสงเงาที่ค่อนข้างสมจริงมากขึ้น ทั้งในแง่ของเงาตกกระทบ หรือรอยเท้า รวมถึงบรรยากาศของตัวเกมที่ทางผู้พัฒนาเลือกที่จะปรับเปลี่ยน Mood & Tone ให้มันดูมีความมืด ต่างจาก เกมเวอร์ชันต้นฉบับ
ที่จะมีภาพที่สว่างมาก ๆ ทำให้ตัวเกมภาคนี้มีความน่ากลัวมากยิ่งขึ้น ฉากเลือด ศพ เครื่องในจัดเต็มอย่างที่คุณเคยเล่นเกม Resident Evil 2 Remake เลยทีเดียว ซึ่งส่วนตัวนั้นเล่นเกมนี้บนเครื่อง PC นะครับสิ่งที่น่าประทับใจมากก็คงจะเป็นในด้านของการ Optimize ทำออกมาได้ค่อนข้างดีมาก ๆ โดยคอมพิวเตอร์ที่ผมใช้เล่นนั้นก็คือ Intel i5 – 8400 และการ์ดจอ Nvidia RTX 2070 Super
สามารถเล่นเกมนี้ได้สูงตั้งแต่ 80 – 100 เฟรมเรท ใน Setting แบบ High ได้อย่างสบาย ๆ และเชื่อว่าคนที่มีสเปกคอมต่ำกว่านี้สามารถเล่นได้อย่างสบาย ๆ เพราะตัวเกมนั้นมีรายละเอียดให้ปรับได้เยอะมาก ๆ ทั้งในแง่ของแสงเงา รายละเอียดภาพ หรือจะสามารถเลือกลบรายละเอียดบางอย่างเช่นศพของศัตรูที่นอนกองที่เราสามารถเลือกได้ว่าจะให้เห็นในฉากเยอะหรือน้อย เพื่อลดแรงการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ได้
การกลับมาของภาคที่แฟน ๆ ชื่นชอบที่สุดในเวอร์ชั่น Remake แบบเต็มตัว ภาคที่รื้อไอเดียทำใหม่
ส่วนในด้านโมเดลของตัวละครก็ถือว่าทำออกมาได้สมจริงมาก ๆ รวมถึงยังมีการดีไซน์ตัวละครใหม่บางตัวให้มีความน่ากลัวมากขึ้น ดูสมจริงกับบรรยากาศมากขึ้น หรือจะเป็นการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ของบางตัวละครให้แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงอย่างเช่นตัวละคร Gatling Man ศัตรูที่ถือปืนกลเก็ตลิง ก็ปรับเปลี่ยนให้กลายเป็น Brute (Pig Head) เป็นคนใส่หัวหมูป่า ถือหน้าไม้ออโต้
ยิงเราแทน หรือจะเป็นตัวละครใหม่อย่าง Brute (Cow Head) ที่จะเป็นคนใส่หัววัวคือฆ้อนใหญ่ก็มี ซึ่งมันจะสามารถนำเสนอความโรคจิต ผิดมนุษย์มนาของลัทธินี้มากขึ้นนั่นเอง ในการเล่นเกมทั้งหมดของภาคนี้ตัวเกมจะใช้เวลาเล่นจบหนึ่งครั้งราว ๆ 10-12 ชั่วโมงนะครับ ซึ่งการเล่นครั้งแรกก็อาจจะเล่นนานกว่านั้นก็ได้ถ้าหลงทางเหมือนผมนะฮ่า ๆ โดยเกมภาคนี้ส่วนตัวคิดว่าน่าจะ
ยาวมากกว่า Resident Evil Village เลยด้วยซ้ำ แต่ถึงแม้ว่าตัวเกมภาคนี้จะยาว มันก็ไม่มีช่วงไหนที่รู้สึกว่าน่าเบื่อเลยแม้แต่น้อย อาจจะมีดรอปลงไปบ้างนิดหน่อยบางฉาก แต่มันก็แบบเดียวก็กลับมาระทึกเหมือนเดิม โดยฉากของเกมนี้จะแบ่งฉากออกเป็นสามโซนซึ่งจะให้อารมณ์ที่แตกต่างกันไปนั่นก็คือโซนหมู่บ้านที่มันจะให้ความรู้สึกในการเจอศัตรูที่เป็นคนผิดปกติ เป็นโซนที่
พบเจอกับจุดเริ่มต้นของความพิศวง โซนปราสาทที่จะเน้นหนักที่มีความวังเวงและน่ากลัว ห้องทดลองสุดวิปริต มีความกังวลในทุกมุมห้องที่พบเจอ ซึ่งโซนนี้จะเป็นโซนที่ใช้เวลาเล่นมากที่สุด ส่วนโซนสุดท้ายก็จะเป็นโซนเกาะที่ความน่ากลัวอาจจะเบาลงมาที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นความระทึก ความโหดของศัตรูที่เยอะไม่แพ้กันเลย
Resident Evil 4 MOD แปลไทย มาแน่! จากทีมงาน Noob-Translator x Thai Biohazard
ในด้านของมุมกล้องภาคนี้ทางผู้พัฒนาก็ยังเลือกที่จะใช้มุมมองบุคคลที่สามเช่นเดิมเหมือนในเวอร์ชันต้นฉบับ ซึ่งในเวอร์ชันดั้งเดิมถึงแม้ว่าตัวเกมเพลย์จะเป็นมุมมองบุคคลที่สาม ซึ่งเวลาเล็งเราไม่สามารถที่จะเดินได้ แถมเวลาเดินเราก็จะทำได้เพียงแค่การเดินเป็นเส้นตรง (เดินหน้า ถอยหลัง) เท่านั้น แต่สำหรับภาคนี้จะใช้การเคลื่อนไหวแบบ Resident Evil 2 Remake และ
Resident Evil 3 Remake ที่เวลาเล็งเราจะสามารถเดินได้อย่างอิสระ ซึ่งส่วนตัวชอบมาก ๆ เพราะผู้เขียนเองไม่ชินกับการหันมุมกล้องแบบเก่า แต่ถึงอย่างนั้นท่านก็อย่าดีใจไป เพราะ เกมเพลย์แบบใหม่ มันก็แลกมากับการที่ตัวเกมจะมีสปีดการเล่นที่เร็วมากขึ้น ทั้งในแง่ของศัตรูที่จะเดินเข้ามาหาเราเร็วมากกว่าภาคก่อน ๆ หนึ่งในจุดเด่นของเกมภาคนี้ก็คือตัวพ่อค้าปริศนา
ที่จะปรากฏตามฉากให้เรานั้นได้ซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นของใช้ต่าง ๆ ปืนใหม่ ๆ ที่ในภาคนี้ปืนส่วนใหญ่จะต้องซื้อจากร้านค้าเท่านั้น มีการอัปเกรดความสามารถของปืนเพิ่มดาเมจ เพิ่มจุกระสุนเป็นต้น โดยเราสามารถหาเงินมาซื้อได้จากการจัดการศัตรูซึ่งมันจะดรอปเงิน หรือตามแผนที่จะก็มีพวกเพชรหรือสมบัติที่สามารถเอาของมาขายได้
หนึ่งในภาคที่ยอดเยี่ยมและเคารพต้นฉบับ สมกับการรีเมคที่ควรจะเป็น!
อย่างที่กล่าวไปว่าเนื้อเรื่องของเกมนี้เราจะต้องเข้าไปช่วยเหลือแม่สาวน้อย Ashley Graham ซึ่งมันก็จะมีซีนที่เราจะได้ผจญภัยไปทำสาวน้อยคนนี้ ใครที่เคยเล่นเกมหรือติดตามมีมของเกมภาคเก่ามาบ้าง ท่านก็น่าจะรู้ว่าน้อง Ashley นี้ค่อนข้างเป็นภาระมาก ๆ เพราะตัวเธอก็จะค่อนข้างเกะกะ เวลาศัตรูอยู่ใกล้ ๆ ก็จะก้มหมอบลง และเวลาถูกศัตรูโจมตีตัวเธอก็จะตะโกนเสียงแหบ ๆ ดัง ๆ ว่า Help !! Leon แต่สำหรับภาคนี้ตัวเกมจะมีปุ่มให้ Ashley สามารถเดินตามเรา อยู่ให้รออยู่กับที่ก็ได้ รวมถึงตัว Ashley ก็จะไม่ได้มีเสียงที่น่ารำคาญเหมือนภาคต้นฉบับแบบ เสียงน้องมีความนุ่มนวลมากขึ้น เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะหลงรักตัวละครนี้ในเวอร์ชันนี้อย่างมากเลย ต้องบอกเลยว่านี่คืออีกหนึ่งผลงานระดับมาสเตอร์พีซของ Resident Evil ที่ทางผู้พัฒนาไม่ทำให้เราผิดหวังเลย ถึงแม้ว่านี่จะเป็นเกมที่ใช้เวลาเล่นที่นานที่สุดถ้าให้เปรียบเทียบภาคเก่า ๆ แต่ความระทึก ความตื่นเต้นของเกมมาแบบจัดเต็มไม่มีพักเลย อีกสิ่งที่ชอบก็คงจะเป็นด้าน Mood & Tone ที่ปรับปรุงให้มีความน่ากลัวมากขึ้น จนสามารถลบคำสบประมาทคำว่าเกมภาค 4 ไม่ค่อยน่ากลัวได้เลย เกมเพลย์การ Movement ที่ทันสมัยไม่เก้ ๆ กัง ๆ เหมือนก่อน Resident Evil 4 Remake คือหนึ่งในเกมภาคที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัยเลย รีวิวเกม Project TL