รีวิวเกม Fortnite เกมชู้ตติ้งที่ยิงไปสร้างป้อมไป พร้อมแฟชั่นการแต่งตัวสุด cool

รีวิวเกม Fortnite ถ้าพูดถึงเกมแนว Battle Royale ละก็ หลายคน คงจะนึกถึงเกมที่กำลังฮิตอยู่ใน Steam อย่างแน่นอน แต่ด้วยการที่เกมนั้นเป็นเกมที่ต้องซื้อ หลายคนเลยอาจจะตัดสินใจยากกันนิดนึงว่าจะซื้อเกมมาเล่นดีไหม ทว่าตอนนี้มันมีอีกเกมหนึ่งที่ทำโหมดคล้ายๆ กันปล่อยออกมา แถมให้เล่นกันฟรีในช่วงทดสอบ ซึ่งความน่าสนใจของคนเขียนมองว่า นอกจากมันจะพอเล่น

แทนกันได้ระดับหนึ่งแล้ว มันเหมือน DEMO เกมที่ดีเลยทีเดียวครับ และเกมที่เราจะพูดถึงนี้ก็คือ Fortnite ในโหมด Battle Royale นั่นเองครับ ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักตัวเกม Fortnite กันก่อน เดิมทีแล้ว ตัวเกม Fortnite นั้นเป็นเกมแนวเอาตัวรอดที่คนเล่นจะต้องร่วมมือกับเพื่อนคนอื่นๆ ที่จะต้องสร้างป้อม ฐานตัวเองขึ้นมา ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ซึ่งพอเข้าสู่ตอนกลางคืน ก็จะมีซอมบี้บุกมาถล่มเรานั่นเอง ตามปกติแล้ว เกมต้องซื้อ แต่สำหรับโหมด Battle Royale นี้จะเป็นโหมดที่เล่นได้ฟรี ดังนั้น จะบอกว่า ในโหมด Battle Royale เป็นกึ่งๆ DEMO ของเกม Fortnite ก็ไม่ผิดนักครับ

รีวิวเกม Fortnite Battle Royale เมื่อเกมดัง ทำโหมดเอาตัวรอดกับเขาบ้าง

วิธีการเล่นในโหมดนี้จะเหมือนกับอีกเกมแทบจะเด๊ะๆ เลยครับ คือ เราจะต้องกระโดดลงไปยังเกาะ (เกมนี้กระโดดจากรถบัสแทน) แล้วก็เลือกจุดที่เราจะลงไป และเมื่อลงไปแล้ว คนเล่นจะต้องรีบตามหาอาวุธ ที่จะซ่อนอยู่ตามที่ต่างๆ (ซึ่งมักจะอยู่ในบ้าน) แล้วเมื่อเจอคนเล่นคนอื่น ก็ต้องวิ่งหนีไม่ก็เข้าปะทะกัน โดยหากสามารถฆ่าใครได้ ก็จะได้รับของที่ดรอปจากคนเล่นคนอื่น

ผู้ที่เหลือรอดเป็นทีมสุดท้าย หรือ คนสุดท้ายในเกม ก็จะเป็นผู้ชนะ โดยระหว่างที่เล่นนั้น ตัวเกมจะค่อยๆ บีบเวลาจำกัดมาเรื่อยๆ นั่นก็คือ จะมีแสงที่จะค่อยๆ บีบโอบล้อมคนเล่นมาเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป ทำให้พื้นที่ที่จะมีการเจอและปะทะกันนั้นจะค่อยๆ แคบลงเรื่อยๆ (แปลว่าถึงไม่อยากจะสู้ ก็ต้องถูกบังคับให้สู้อยู่ดี) ซึ่งเกมนี้จะรองรับคนเล่นในห้องสูงสุดถึง 100 คนเลยทีเดียว และรองรับการเล่นแบบทีม เป็นทีมละ 4 คนครับ ซึ่งเป็นเกมที่รองรับคนเล่นในสภาพแวดล้อมกว้างมากๆ ที่ดีเกมหนึ่งเลยทีเดียว

ราชาแห่งเกมครอสโอเวอร์ ที่ไม่ได้มีดีแค่การดึงคนอื่นมาแจม

ทีนี้ ความแตกต่างของเกมนี้กับอีกเกมนั่นก็คือ ตัวเกมนี้ยังมีส่วนผสมของการคราฟสร้างของอยู่ โดยคนเล่นจะต้องไปตามเก็บวัตถุดิบต่างๆ เช่น ไม้ เหล็ก โดยสามารถพังของที่อยู่ตรงหน้าได้แทบทุกอย่างเช่น รถ, ไม้ , บ้าน แล้วก็มาสร้าง อย่างเช่น กำแพง , บันได หรือ สิ่งกีดขวางเพื่อช่วยให้ตัวเองสามารถเอาตัวรอดได้ และสามารถสร้างได้ทุกที่ในพื้นที่ในเกมอีกด้วย ซึ่งให้อารมณ์

เหมือนกับโหมดต้นฉบับ เพียงแต่ในเกมนั้นจะมีการสร้างแค่สิ่งกีดขวางในการสร้างทางหรือที่กำบังกันมากกว่า รวมไปถึงความแตกต่างอีกอย่างนั่นก็คือ กราฟฟิกของเกมตัวนี้จะเป็นการ์ตูน มันเลยทำให้มองดูกันง่าย และสบายตากว่า รวมไปถึงเกมออกอารมณ์ไม่เน้นจริงจังเมื่อเทียบกับอีกเกมด้วย แต่เอาจริงๆ ถ้ามองว่า มันคือ DEMO ของ เกม Fortnite แต่เป็น โหมด Battle Royale แทน ซึ่งถ้าคนไหนอยากรู้ว่าเกมมันเล่นยังไง ก็สามารถมาเล่นโหมดนี้เพื่อทดลองเล่นกันได้ครับ

แบทเทิลรอยัลมุมมองบุคคลที่สาม เจ้าพ่อแห่งการครอสโอเวอร์ในวงการเกม

หากใครเคยเล่น ROE หรือ PUBG กันมาบ้างคงเข้าใจระบบการเล่นของเกมนี้กับ Fortnite ซึงเป็นเป็นเกมชู้ตติ้งมุมมองบุคคลที่สามแบบ Battle Royale ที่จะต้องฟาร์มของ ดักซุ่มโจมตีทีมอื่นๆ เพื่อให้ทีมเราอยู่รอดเป็นทีมสุดท้าย จุดเด่นของเกมนี้คือการแต่งตัวที่หลากหลายกว่าเกมอื่น (ไม่ได้เจอแต่เสื้อวินหมวกกันน็อคแบบบางเกม) และยังสามารถสร้างป้อมสร้างสะพานจากวัสดุที่

เราเก็บได้อีกด้วยเอาจริงแล้ว ข้อเสียจริงๆ ของเกมนี้นั่นก็คือความแลค คือ เนื่องจากเซิร์ฟเวอร์ที่เล่นนั้นเลือกไม่ได้ ทำให้เดาได้ว่าเราคงข้ามไปเล่นฝั่งเซิร์ฟเวอร์อเมริกาเลย แปลว่าคนไหนที่เน็ตไม่แรงจริงอาจจะมีแลคกันบ้าง และไม่สามารถเลือกตัวละครได้ แต่ถามว่าเกมสนุกไหม สนุกแน่นอนครับ ยิ่งถ้าคนไหนยังไม่รู้ว่าจะเหมาะ เล่นเกมแนว Battle Royale ด้วยแล้ว ก็สามารถมาลองเล่นตัวเกมนี้กันได้เลยครับ

เกมฟรีที่ประสบความสำเร็จเป็นเบอร์ต้น ๆ ของโลก สร้าง วิ่ง ยิง ชนะ

แม้หลายคนจะไม่ชอบเกมนี้ แต่ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า Fortnite เป็น เกม Free-to-Play  ที่ประสบความสำเร็จเป็นแถวหน้าของโลก มีรายงานว่าในช่วง 10 เดือนแรกหลังจากที่ตัวเกมเปิดตัว มันทำเงินได้กว่า 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นผลงานที่ไม่ธรรมดา และน้อยเกม น้อยค่ายเกมที่จะทำได้ โดยเฉพาะกับเกมที่สามารถเล่นได้แบบฟรี ๆ และยังมีผู้เล่นหลัก 100 ล้านคนทั่วโลก แน่นอนว่าที่ใดมีแสงสว่างที่นั่นย่อมมีเงามืด Fortnite กลายเป็นการประสบความสำเร็จแต่ก็มีทั้งข่าวเสีย ๆ หาย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการติดเกมจนเกินเหตุ อุบัติเหตุ ไซเบอร์บูลลี่ และอื่น ๆ อีกมากมายที่หลายคนอ้างว่ามาจาก Fortnite แต่สุดท้ายไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เกมของมันก็ยังเดินหน้าอัปเดต ดูแลตัวเกมอย่างต่อเนื่องจนประสบความสำเร็จมาจนถึงตอนนี้ ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า Fortnite ยังคงเป็นเกม Battle Royale แถวหน้าของโลก และน่าจะยังเป็นต่อไปอีกนานเลยทีเดียว

สรุปจุดเด่นของเกมนี้

– ฉากกว้างใหญ่ วิ่งได้อิสระ

– รูปแบบการเล่น Battle Royale อันแสนคุ้นเคย

– กราฟฟิกไม่กินสเปค เล่นได้ลื่น

– การสะสมของแล้วสร้างสิ่งกีดขวาง ที่ทำให้เกมดูหลากหลาย

– เล่นฟรี